ดูดเหนียง,กรอบหน้า,แก้ม ต้องใช้ยาสลบไหม ? โดยทั่วไปการดูดไขมันเหนียง,กรอบหน้า,แก้ม มี 2 วิธีการ คือการดูดไขมัน แบบดั้งเดิมโดยการใช้ยาสลบ และวิธีการดูดไขมันแบบปัจจุบัน เป็นการดูดไขมัน ด้วยเทคนิคการใส่ยาชา (Tumescent ) หรือสารละลายน้ำเกลือที่เนื้อเยื่อไขมัน ซึ่งทั้งสองวิธีการมีผลข้างเคียงที่ต่างกัน โดยการเลือกใช้จะขึ้นอยู่กับความต้องการของคนไข้ สภาพร่างกายของคนไข้ และการพิจารณาของแพทย์เป็นหลักซึ่งในปัจจุบันการเลือกใช้ยาชาเฉพาะส่วน เป็นที่นิยมมากกว่าการใช้ยาสลบ เนื่องจากยาชามีผลข้างเคียงน้อยกว่าและฟื้นตัวได้เร็ว
ดูดไขมัน FAT center มีวิธีไหนบ้าง?
การดูดไขมันในปัจจุบันนิยมแบ่ง และเรียกตามชื่อเครื่องมือที่ใช้ในการดูดไขมัน เช่น
Bodytite
Vaser Smooth 2.2
Microaire PAL
โดยเครื่องมือแต่ละชนิดถูกออกแบบมาเพื่อวัตถุประสงค์ต่างกัน Bodytite เน้นกระชับ Vaser lipo smooth 2.2 (vaser liposuction) และ Microaire PAL เน้นดูดออกปริมาณไขมันที่มากๆบางทีจึงจะเห็นแพทย์บางท่านใช้อุปกรณ์หลายชนิดร่วมกันเพื่อให้ได้ประโยชน์สูงสุดแหละหลายคนสงสัยและเกิดคำถามขึ้นมาว่าแล้วต้องใช้เครื่องมือไหนถึงจะดีที่สุดจริงๆแล้วการดูดไขมันออกมาให้ดีคือประสบการณ์ของแพทย์ที่ทำเพราะเรื่องนี้เป็นหัตถการที่ต้องอาศัยเวลาในการฝึกฝนทำบ่อยและประสบการณ์ของแพทย์ที่ทำซึ่งความแม่นยำไม่ได้เกิดจากอุปกรณ์ที่ดีอย่างเดียวแต่ต้องอดทนฝึกฝนทำซ้ำๆหลายๆครั้งจนมีความเชี่ยวชาญและชำนาญ
ดูดไขมันด้วยเครื่อง Body Tite
Body Tite คือ นวัตกรรมใหม่ล่าสุดที่ใช้คลื่นความถี่วิทยุ ในการสลายไขมัน ดูดไขมัน พร้อมยกกระชับผิว ซึ่งในปัจจุบันเป็นที่ยอมรับของวงการแพทย์ เพราะนอกจากจะทำการสลายไขมันพร้อมการดูดไขมัน ภายในครั้งแรกที่ทำการรักษา ยังช่วยให้กระชับเนื้อผิวที่หย่อนคล้อยได้นอกจากจะช่วยกำจัดไขมัน คลื่นความถี่วิทยุ ยังกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน และการหดตัวของกล้ามเนื้อและเนื้อเยื่อชั้นบางๆ ที่อยู่ในผิวหนังทำให้ผิวหนังทั้งหมดกระชับขึ้น ไม่หย่อนคล้อย อีกทั้งยังทำให้รูปร่างได้สัดส่วนมากยิ่งขึ้น
ข้อดีของการดูดไขมัน Body Tite
หลังทำการรักษาผู้ป่วยไม่จำเป็นต้องพักฟื้น
แผลมีขนาดเล็ก เนื่องจากเครื่องมือมีขนาดเล็ก
ลดอาการเจ็บและการบวมช้ำ จากการดูดไขมัน
กระชับผิวเรียบเนียนได้โดยไม่เกิดปัญหาผิวเป็นคลื่นหลังการทำ
ช่วยกระตุ้นคอลลาเจนในชั้นใต้ผิวหนัง ทำให้ผิวหนังบริเวณที่ทำการรักษายกกระชับผิวเรียบเนียนได้โดยไม่เกิดปัญหาผิวเป็นคลื่นหลังการทำ
ดูดไขมันด้วยเครื่อง Vaser Smooth 2.2
Vaser Smooth 2.2 เป็นวิธีการดูดไขมันโดยการใช้คลื่นอัลตราซาวด์ คือ การนำพลังงานเสียงมาเป็นตัวช่วยในการสลายไขมัน ทำให้ไขมันแตกตัวมีความละเอียด ง่ายต่อการดูดไขมันออก และเลือกเจาะจงเฉพาะตัวไขมันเพียงอย่างเดียว จึงทำให้ดูดไขมันออกจนหมดในครั้งเดียว พร้อมยังมีเครื่องมือที่คอยกระชับผิวระหว่างการดูดไขมัน โดยเครื่อง Vaser Smooth 2.2 จะมีพลังงานที่สูง จึงเหมาะกับการดูดไขมันบริเวณหน้าท้อง เนื่องจากดูดไขมันออกมาได้ในปริมาณมากและทำให้ผิวมีความกระชับ
ข้อดีของการดูดไขมัน Vaser Smooth 2.2
ช่วยลดอาการบวม และรอยเขียวช้ำ
แผลเล็ก ฟื้นตัวได้เร็วกว่าการดูดไขมันแบบทั่วไป
ดูดไขมันได้ในปริมาณมาก และลดเวลาในการดูดไขมัน
เทคโนโลยีมีความปลอดภัยได้รับการยอมรับจาก US FDA และ THAI FDA และมีประสิทธิภาพในการรักษาสูง
ดูดไขมันด้วยเครื่อง Microaire PAL
Microaire PAL เป็นการใช้วิธีการดูดไขมันโดยการสั่นสะเทือนเพื่อนำไขมันออกมาจากร่างกาย เป็นวิธีที่ไม่ใช้ความร้อน ไม่เจ็บ ไม่เสี่ยงผิวไหม้ รวมถึงช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการดูดไขมันได้ดีมากยิ่งขึ้นเพราะความถี่ในการสั่นจะช่วยให้ดูดไขมันได้ในปริมาณที่มาก รวมถึงรอยฟกช้ำน้อยกว่าการดูดไขมันแบบปกติ
ข้อดีของการดูดไขมัน Microaire PAL
ลดระยะเวลาในการดูดไขมัน
ดูดไขมันได้ในปริมาณมาก
เพิ่มประสิทธิภาพในการดูดไขมัน
แผลเล็ก หลังทำสามารถกลับบ้านได้ทันที
สามารถดูดไขมันซ้ำได้ในบริเวณที่เคยดูดไขมันมาก่อน
ลดการบาดเจ็บและลดการบอบช้ำของเนื้อเยื่อจากการเสียดสีขณะดูดไขมัน
ก่อนดูดไขมันเหนียง,กรอบหน้า,แก้ม ต้องเตรียมตัวอย่างไร ?
ในปัจจุบันการศัลยกรรมดูดไขมันเหนียง,กรอบหน้า,แก้ม ถือเป็นที่นิยมอย่างแพร่หลายทั้งผู้หญิงและผู้ชาย เนื่องจากเป็นวิธีที่สามารถกำจัดไขมันส่วนเกินออกไปจากร่างกายได้ เปลี่ยนหน้ากลม ให้กลายเป็นหน้าเรียว ปรับใบหน้าให้เล็กลง บุคคลที่จะดูดไขมันก่อนที่จะตัดสินใจควรศึกษาข้อมูล และมีการเตรียมความพร้อมก่อนดูดไขมัน เพื่อความปลอดภัยและผลการรักษาที่ดีกับคนไข้
การเตรียมความพร้อมต้องทำอย่างไรบ้าง ?
ก่อนจะเลือกดูดไขมัน ควรดูดไขมันกับแพทย์ที่ได้รับใบประกอบวิชาชีพ และคลินิกที่ได้มาตรฐานมีใบอนุญาตถูกต้องเท่านั้น
ก่อนทำการดูดไขมันต้องแจ้งแพทย์ว่ามีประวัติการแพ้ยาหรือไม่ เป็นสิ่งสำคัญมากเพื่อป้องกันการแพ้ยาระหว่างการดูดไขมัน
ก่อนทำการดูดไขมันควรมีการตรวจเลือด เพื่อตรวจเม็ดเลือดและเกล็ดเลือด การแข็งตัวของเลือด เกลือแร่ในร่างกาย เพื่อความปลอดภัยของคนไข้เอง
คนไข้ต้องศึกษาหาข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับกระบวนการดูดไขมัน และความเสี่ยงต่างๆ ศึกษากระบวนการรักษาทั้งตอนดูดไขมันและหลังดูดไขมัน
ควรวางแผนการพักฟื้นให้ดี หลังการผ่าตัดต้องดูแลแผลเป็นอย่างดี เพราะในช่วงแรกจะมีน้ำเกลือไหลซึมออกมาจากปากแผล แต่ก็เป็นแค่ช่วงเวลา 1-2 วันเท่านั้น
ปรึกษาแพทย์ก่อนตัดสินใจดูดไขมัน แจ้งความกังวลกับแพทย์ว่าเรากังวลส่วนไหน ทำไมถึงอยากดูดไขมันบริเวณนี้ออก เพื่อประกอบการตัดสินใจของทั้งแพทย์และคนไข้
คนไข้ต้องเตรียมพร้อมร่างกายก่อนดูดไขมันซึ่งเป็นสิ่งสำคัญมาก คนไข้ต้องงดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ อาหารเสริมต่างๆ และยากลุ่มแอสไพริน ก่อนทำการดูดไขมันอย่างน้อยเป็นเวลา 2 สัปดาห์
ทำไมต้องดูดไขมัน เหนียง คางสองชั้น แก้มป่อง
ฟื้นตัวไวแผลหายได้รวดเร็วบวมช้ำน้อย
ใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ
กลับบ้านได้เลย ไม่ต้องพักฟื้นที่คลินิก
ห้องผ่าตัดได้มาตรฐาน ปลอดภัย
ทีมแพทย์ดูแลใกล้ชิด อบอุ่น เป็นกันเอง
ราคาตรงปกไม่แพง
ทีมแพทย์ผู้มีประสบการณ์พร้อมให้คำปรึกษาอย่างตรงจุด
ดูดไขมัน เหนียง คางสองชั้น แก้มป่อง เหมาะกับใคร ?
ผู้ที่มีปัญหาเรื่องไขมันสะสมส่วนเกินบริเวณใบหน้า จนขาดความมั่นใจ
เหมาะกับผู้ที่มีความยืดหยุ่นของผิวหนังที่ยังดีอยู่ (อายุยังไม่มาก ไม่มีความหย่อนคล้อยของผิวหนังมากเกินไป)
คนที่มีกรอบหน้าไม่ชัด มีไขมันเยอะ
น้ำหนักน้อยรูปร่างสมส่วนแต่หน้ากลมแก้มเยอะ
ผู้ที่น้ำหนักเยอะมีไขมันสะสมทั้งใบหน้าแก้มเหนียงใต้คางเยอะ
การดูดไขมัน เห็นผลถาวรหรือไม่
การดูดไขมัน ให้ผลกึ่งถาวร แตกต่างจากการลดน้ำหนักที่เซลล์ไขมันยังคงอยู่ในบริเวณเดิม เพียงแค่ลดขนาดลง แต่การดูดไขมันเป็นการนำเซลล์ไขมันออกไปจากบริเวณเดิม หากน้ำหนักคงที่ไม่มีไขมันมาสะสมเพิ่ม ก็จะคงผลลัพธ์เดิมไว้ได้ในระยะยาว แต่หากมีน้ำเพิ่มขึ้น ก็จะมีการสะสมไขมันบริเวณอื่นๆ ก่อนบริเวณที่ทำการดูดไขมัน